วันเข้าพรรษาในปี 2564

วันเข้าพรรษา เป็นวันที่พระสงฆ์ทักษิณนิกายจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ในที่แห่งไหนที่หนึ่ง ตลอดเวลาหน้าฝนที่มีระบุเป็นระยะเวลา 3 เดือน จากที่พระธรรมวินัยกำหนดไว้ โดยไม่ไปพักแรมที่อื่นๆ หรือที่เรียกติดปากกันโดยปกติว่า “จำพรรษา” นั่นเอง โดย วันเข้าพรรษา 2564 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค. หรือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งเรื่องราววันเข้าพรรษา จุดสำคัญ กิจกรรม มีดังนี้
เรื่องราววันเข้าพรรษา
“เข้าพรรษา” หมายความว่า “พักฝน” คือ พระสงฆ์จะต้องอยู่ประจำในวัดใดวัดหนึ่งระหว่างหน้าฝน ด้วยเหตุที่พระภิกษุสงฆ์ในสมัยพุทธกาล มีบทบาทจำเป็นต้องจาริกโปรดสัตว์ รวมทั้งเผยแผ่พระธรรมคำสอนแก่พลเมืองไปในที่ต่างๆไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ ถึงแม้ในช่วงฤดูฝน ราษฎรก็เลยต่อว่าว่าไปเหยียบต้นกล้าและพืชอื่นๆจนเสียหาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดระเบียบการจำพรรษาให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในช่วงฤดูฝน โดยแบ่งเป็น
– ปุริมพรรษา หรือ วันเข้าพรรษาแรก เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี หรือถ้าเกิดปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง แล้วก็วันออกพรรษาในวันขึ้น 15 เย็น เดือน 11
– ปัจฉิมปี หรือ วันเข้าพรรษาข้างหลัง เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 9 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12
แต่ ถ้าหากมีกิจธุระ คือเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในวันเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปค้างคืนได้ ครั้งหนึ่งไม่เกิน 7 คืน เรียกว่า “สัตตาหะ” ถ้าหากเกินกำหนดนี้จัดว่าไม่ได้รับประโยชน์แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด
สำหรับข้อละเว้นให้ภิกษุจำพรรษาที่อื่นๆได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษา เว้นแต่ว่าเกิน 7 วัน เป็นต้นว่า
1. การไปรักษาพยาบาลภิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บไข้ได้ป่วย
2. การไประงับภิกษุสามเณรที่ต้องการจะสึกไม่ให้สึกได้
3. การไปเพื่อหน้าที่ของคณะสงฆ์ เป็นต้นว่า การไปหาอุปกรณ์มาซ่อมแซมกุฏิที่ชำรุด
4. หากทายกนิมนต์ไปทำบุญสุนทาน ก็ไปฉลองศรัทธาในการบำเพ็ญกุศลของเขาได้
นอกเหนือจากนั้นถ้าหากระหว่างเดินทางตรงกับวันหยุดเข้าพรรษาพอดิบพอดี พระสงฆ์เข้ามาทันในหมู่บ้านหรือในเมืองก็เพียงพอจะหาบ้านพักพิงได้ตามความเหมาะสม แต่ว่าถ้าหากมาไม่ทันก็จะต้องพึ่งโคนไม้ต้นเป็นค่ายพักแรม ประชาชนมองเห็นพระได้รับความยากลำบากแบบนี้ก็เลยช่วยเหลือกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน รวมกันหลายๆองค์ บ้านพักดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนี้เรียกว่า “วิหาร” แปลว่า ที่อยู่พระสงฆ์ พอหมดแล้ว พระท่านออกจาริกตามกิจของท่าน ครั้งถึงฤดูฝนใหม่ท่านก็กลับมาพักอีก เพราะเหตุว่าสะดวกดี แต่ว่าบางท่านอยู่ประจำเลย ครั้งคราวเศรษฐีมีจิตศรัทธาเลื่อมใสในศาสนาพุทธ ก็เลือกหาสถานที่เงียบสงบไม่ไกลห่างจากชุมชนนัก สร้างบ้านพัก เรียกว่า “อาราม” ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ตัวอย่างเช่นในช่วงเวลานี้
สนับสนุนการจัดทำโดย เว็บพนันออนไลน์ w88เพราะเราคือผู้นำด้านคาสิโนออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุด